Matrix BCG - แมทริกซ์ บี ซี จี
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ ผ่านการวิเคราะห์แมทริกซ์ของ “อัตราการเจริญเติบโตของตลาดกับส่วนแบ่งตลาด” (Growth-Share Matrix) ซึ่ง บี ซี จี (BCG หรือ The Boston Consulting Group) ได้นำเสนอขึ้นมา
โดยแกนตั้งจะแสดง “อัตราการเจริญเติบโตในภาพรวมของตลาดหรือธุรกิจ (Market / Business Growth Rate)” ซึ่งบางตลาดหรือบางธุรกิจอาจขยายตัวอย่างรวดเร็วในอัตราสูง ในขณะที่บางตลาดหรือบางธุรกิจมีดีมานด์ที่เพิ่มช้าหรือไม่เพิ่มเลยจึงขยายตัวช้า
ส่วนแกนนอนจะแสดง “การครองตลาดหรือส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ของบริษัท” ซึ่งบางผลิตภัณฑ์หรือบางบริษัทอาจมีส่วนแบ่งตลาดมากเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในขณะที่บางผลิตภัณฑ์หรือบางบริษัทอาจมีส่วนแบ่งตลาดน้อย
--> กลุ่ม “ดาวเด่น” (Stars) เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงและส่วนแบ่งตลาดสูง กล่าวคือ ธุรกิจได้กำไรสูง อันเกิดจากตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว หากต้องการทำกำไรเพิ่มขึ้นหรือต้องการแข่งขันในตลาดได้ บริษัทควรที่จะขยายตลาดหรือลงทุนเพิ่ม
--> กลุ่ม “แม่วัวให้นม” (Cash Cows) เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตต่ำ แต่ส่วนแบ่งตลาดสูง อาจเกิดจากการเข้าสู่ตลาดนานแล้ว โดยธุรกิจยังมีกำไรสูงอยู่ และมีเงินสดเหลืออยู่มาก เพราะตลาดเจริญเติบโตน้อย
--> กลุ่ม “สุนัข” (Dogs) เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตต่ำและส่วนแบ่งการตลาดต่ำ กล่าวคือ ธุรกิจกำไรน้อย ขีดความสามารถในการดำเนินงานต่ำ
--> กลุ่ม “ตัวเจ้าปัญหา” (Question Marks) เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง แต่ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ อาจเป็นเพราะธุรกิจนี้มีผู้นำตลาดอยู่แล้ว และบริษัทเพิ่งเข้าสู่ตลาดไม่นาน จึงเป็นโอกาสในการขยายงานเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ซึ่งบริษัทมักต้องการเงินลงทุนเป็นปริมาณมาก และหากธุรกิจสามารถยึดครองส่วนแบ่งตลาดได้มากพอ ก็จะกลายเป็นผู้นำตลาดหรือเป็นกลุ่มดาวเด่น (Stars)
ถ้านักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่ดี น่าจะเลือกธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม Question Marks ? เพราะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ บริษัทอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ราคาหุ้นอาจยังไม่สูงเพราะยังไม่เป็นที่สนใจ นอกจากนี้ควรจะมีแนวโน้มว่าจะเป็น Stars ในอนาคตทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัก ราคาก็สามารถขยับสูงยิ่งขึ้นตามพื้นฐานที่ดีขึ้นไป ความเสี่ยงและความยากของการลงทุนในกลุ่มนี้ก็คือ การแยกให้ได้ระหว่าง ว่าที่ Stars กับ ว่าที่ Dogs เพราะถ้าบริษัทไม่สามารถแข่งขันอย่างยั่งยืนได้ ในช่วงแรกอาจเติบโตตามอุตสาหกรรม แต่ในที่สุดพออุตสาหกรรมอิ่มตัวหรือโดนแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทอื่น ทำไม่สามารถขยับตัวเองไปสู่ Stars ได้ ก็อาจกลายเป็น Dogs ในที่สุด
การลงทุนในธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม Stars ถือว่าเป็นบริษัทที่ดี สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือราคาหุ้นของบริษัทยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งบริษัทอาจจะเป็นบริษัทที่ดี เติบโต มีส่วนแบ่งการตลาดเยอะ แต่ราคาหุ้นก็ได้ขึ้นไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ทำให้แทนที่เราจะได้ผลตอบแทนที่ดี ก็อาจจะกลายเป็นการซื้อหุ้นที่ราคาแพงไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้ถ้าบริษัทเติบโตจนถึงจุดอิ่มตัว การเติบโตช้าลง ก็จะกลายเป็น Cash Cows เป็นบริษัทที่มีความมั่นคง เงินสดเหลือเยอะ กลายเป็นหุ้นปันผล ซึ่งนักลงทุนก็ต้องเลือกตัดสินใจให้ดีว่าจะลงทุนแบบไหน
ข้อสรุปจาก BCG มุ่งหวังที่จะช่วยผู้บริหารกิจการในการวางกลยุทธ์ แต่ในขณะเดียวกันผู้ลงทุนก็สามารถนำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้ได้ เช่น กิจการที่มีลักษณะดีตาม BCG ควรมีความสามารถในการหากำไรดี ราคาหุ้นของกิจการเหล่านี้ ควรจะดีกว่าหุ้นของกิจการที่เติบโตต่ำ หากราคาหุ้นมิได้สะท้อนศักยภาพนี้ หุ้นดังกล่าวก็มีราคาที่ผิดจากความเป็นจริง
อ้างอิง : tsi-thailand.org ; วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:ข้อมูลบริษัท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น